วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ประเทศกัมพูชา




           สถานที่สำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวของกัมพูชา



  


พนมเปญ กัมพูชา


กรุงพนมเปญ

เมืองหลวงของกัมพูชาแห่งนี้อุดมไปด้วยสวนและต้นไม้นานาชนิด นอกเหนือไปจากบ้านเรือนที่หลงเหลือมาจากยุคอาณานิคมที่ดูเหมือนอยู่ท่ามกลาง เมืองเก่าของฝรั่งเศส บรรยากาศแสนสบายของเมืองที่ห้อมล้อมไปด้วยสายน้ำ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองท่าแห่งสุดท้ายอันยิ่งใหญ่” ในช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมามีโรงแรมเกิดขึ้นมากมายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ร้านอาหารก็ได้รับการพัฒนาขึ้นจนได้มาตรฐานด้วยเช่นกัน กระนั้นร้านอาหารพื้นเมืองราคาประหยัดก็ยังมีให้เลือกมากมาย

 

เสียมเรียบ กัมพูชา


เสียมเรียบ
นครวัด สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ใช้เวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 30 ปี ถือเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาปราสาทขอมด้วยกันและยังเป็น เมืองในตัวของมันเองด้วย โดยมีฐานะเป็นทั้งเมืองหลวงและศาสนสถานประจำรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ซึ่ง สร้างอุทิศถวายแก่พระวิษณุ ทุกสิ่งที่ก่อสร้างขึ้นจึงล้วนแต่มีความหมายตามคติความเชื่อในศาสนาฮินดูที่ ว่า ศาสนสถานคือศูนย์กลางของโลกและจักรวาล มีคูเมืองเป็นมหาสมุทร ระเบียงคตเปรียบดังเทือกเขาที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุอันเป็นที่อยู่ของทวยเทพ ส่วนปรางค์ประธานที่อยู่ชั้นบนสุดหมายถึงยอดเขา นักท่องเที่ยวที่เดินทางมานครวัดจะต้องไม่พลาดการชื่นชมความอ่อนช้อยงดงามของนางอัปสรที่มีอยู่ถึง 1,635 องค์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพที่คอยดูแลศาสนสถานแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีภาพสลักที่อยู่รอบระเบียงคตเป็นเรื่องราวจากมหากาพย์และ คัมภีร์พระเวทย์ของศาสนาฮินดู รวมไปถึงเรื่องราวเกี่ยวกับกษัตริย์ผู้สร้าง และหนึ่งในนั้นมีเรื่องราวเกี่ยวกับกองทัพชาวสยามด้วย 


นครวัด กัมพูชา


นครวัด 
ตั้งอยู่ที่เมืองเสียมราฐ (เสียมเรียบ) ในประเทศกัมพูชา สร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ในพุทธศตวรรษที่ 16-17 เพื่อเป็นศาสนสถานประจำนครของพระองค์ เมื่อสมัยแรกนั้น นครวัดได้ถูกสร้างเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไวษณพนิกาย แต่ต่อมาในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้เปลี่ยนให้เป็นวัดในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ในปัจจุบันปราสาทนครวัดนับเป็นสิ่งก่อสร้างสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา และได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ เมืองพระนคร



นครธม กัมพูชา


นครธม 
หรือเมืองพระนครหลวง เป็นราชธานีแห่งใหม่ที่ย้ายมาจากนครยโศธรปุระตามพระราชดำริของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่ประสงค์จะขยายอาณาจักรขอมให้ยิ่งใหญ่ขึ้น นครธมมีคูเมืองล้อมรอบกว้างประมาณ 80 เมตร ด้านละ 3 กิโลเมตร และมีกำแพงศิลาแดงล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน กำแพงที่ล้อมรอบเปรียบได้กับภูเขาและมหาสมุทรที่โอบล้อมแผ่นดิน โดยมีโคปุระหรือซุ้มประตูทางเข้าเป็นสะพานสลักหินขนาดใหญ่ มีเทวดาและอสูรฝั่งละ 54 ตนฉุดนาคขนาดใหญ่ ส่วนซุ้มประตูทางเข้ามีภาพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรอยู่บนยอด ภายในประกอบด้วยปราสาทบายน ลานช้าง ลานพระเจ้าขี้เรื้อน และปราสาทอื่น ๆ อีกมากมาย

ปราสาทบายน กัมพูชา


ปราสาทบายน 
ประกอบด้วยปรางค์ปราสาท 54 ปรางค์ที่ถูกสลักเป็นภาพพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร รวม 216 หน้า ผินออกไปทั้ง 4 ทิศ เพื่อสอดส่องดูแลทุกข์สุขของพสกนิกร รอยยิ้มที่เย็นระเรื่อของพระพักตร์เหล่านั้น เรียกกันว่าเป็นยิ้มแบบบายนอันเปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา 


ลานช้าง กัมพูชา


ลานช้าง 
ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองพระนครหลวงใกล้กับปราสาทบายน หันหน้าเข้าสู่ลานกว้างที่เรียกกันว่าสนามหลวง เป็นระเบียงยาวประมาณ 350 เมตร สูงจากพื้น 3 เมตร ผนังฐานพลับพลาสร้างด้วยหินสลักเป็นรูปช้างและครุฑพ่าห์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ ที่สำหรับให้องค์พระมหากษัตริย์นั่งทอดพระเนตรการสวนสนาม การซ้อมรบ และการเฉลิมฉลองต่าง ๆ


พนมบาแคง กัมพูชา


ปราสาทพนมบาแคง 
ตั้งอยู่บนเขาลูกเล็กที่มีความสูงประมาณ 70 เมตร เป็นศาสนสถานแห่งแรกของเมืองพระนคร นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมาบนปราสาทพนมบาเค็งเพราะเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่ง หนึ่งโดยเฉพาะยอดปราสาทนครวัดที่ผุดขึ้นกลางป่า เวลาที่เหมาะสำหรับเที่ยวชมคือช่วงเย็น เพราะจะได้เห็นยอดปราสาทนครวัดที่ถูกแดดยามบ่ายฉาบให้เป็นสีทอง นอกจากนี้ยังสามารถชมเมืองเสียมราฐ บายรายตะวันออก เขาพนมบกเขาพนมกรอม และแนวเทือกเขาพนมกุเลน


ปราสาทตาพรหม กัมพูชา


ปราสาทตาพรหม 
จัดเป็นวัดในทางพุทธศาสนาและเป็นวิหารหลวงในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่อ ทรงถวายอุทิศให้กับองค์พระราชบิดา ทำให้ภาพที่สลักของปราสาทแห่งนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคติธรรมในพุทธศาสนา แต่ต่อมาบางส่วนได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นศิวะลึงค์ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 เนื่อง จากทรงนับถือศาสนาฮินดู เสน่ห์ของปราสาทตาพรหมอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่อย่างต้นสะปงหรือต้นสำโรง ที่โอบรัดและเกาะเกี่ยวไม่ให้ปราสาทแห่งนี้พังทะลายลง ว่ากันว่าเมื่อค้นพบนครวัดในครั้งแรกก็มีสภาพไม่ต่างไปจากนี้เช่นกัน


บันทายสรี กัมพูชา


บันทายสรี 
เทวสถานขนาดเล็กอันมีลวดลายสลักเสลาที่งดงาม มีความอ่อนช้อย คมชัด และมีชีวิตชีวา ถือเป็นปราสาทที่มีทับหลังและหน้าบันสมบูรณ์ที่สุด ส่วนใหญ่จะแกะสลักเรื่องราวในมหากาพย์รามายณะ (รามเกียรติ์) หลายคนขนานนามว่านี่คือปราสาทแห่งความรัก อยู่ห่างจากเมืองเสียมราฐประมาณ 35 กิโลเมตร


พนมกุเลน กัมพูชา


พนมกุเลน 
นอกจากจะเป็นแหล่งหินที่นำมาสร้างปราสาทมากมายในเมือง เสียมราฐแล้ว ครั้งหนึ่งเทือกเขาแห่งนี้ยังเคยอยู่ในฐานะเมืองหลวงในสมัยพระเจ้าชัยวรมัน ที่ 2 สิ่งที่น่าสนใจของพนมกุเลนก็คือศิวะลึงค์พันองค์ใต้น้ำ ซึ่งใช้แทนฤาษีหนึ่งพันตน พระเจ้าชัยวรมันที่ 2 โปรด ให้สร้างขึ้นเพื่อให้แม่น้ำเสียมราฐกลายเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ ปัจจุบันศิวะลึงค์เหล่านั้นยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์แม้จะอยู่ใต้สายน้ำมานานนับ พันปี


พระเจดีย์เงิน กัมพูชา


พระเจดีย์เงิน 
พื้นของอาคารดังกล่าวปูลาดด้วยแผ่นเงินกว่า 5000 แผ่น แต่ละแผ่นหนักมากกว่า 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก ถึง 3 ตัน แต่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในนาม "วัดพระแก้ว "


โคปุระ ซุ้มประตูเมือง คูเมือง กัมพูชา


โคปุระหรือซุ้มประตูทางเข้าบริเวณเดียวกับกำแพงเมือง และ คูเมือง 
เป็นสะพานหินสลักขนาดใหญ่ รูปเทวดา 54 องค์ กำลังฉุดนาค อีกฝั่งหนึ่งเป็น อสูร 54 ตนฉุดนาคขนาดใหญ่โตเช่นเดียวกัน


ปราสาทบาปวน กัมพูชา


ปราสาทบาปวน 

ปราสาทบาปวน สร้างในสมัยพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 นับว่าเป็นปราสาทที่สูงมาก


ปราสาทตาแก้ว กัมพูชา


ปราสาทตาแก้ว 

ปราสาทตาแก้วถูกสร้างเพื่อถวายอุทิศแด่ พระศิวะในศาสนาฮินดูที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 5 ทรงนับถือ ปราสาทตาแก้วเป็นปราสาทแรกในการทดลองทำด้วยหินทรายมาสร้าง มีลักษณะเป็นปราสาท 5 หลัง เป็นปราสาทที่ถูกเรียกว่าปราสาทโกลน หมายความว่า ปราสาทที่สร้างยังไม่เสร็จดี


พระราชวังหลวง กัมพูชา


พระราชวังหลวง 


สร้างขึ้นตามรูปแบบศิลปะเขมรโดยความช่วยเหลือของฝรั่งเศส ใช้เป็นที่ประทับของเจ้านโรดมสีหนุ จากการเสด็จกลับคืนสู่กรุงพนมเปญ




ประเทศไทย



                                      สถานท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย
  เกาะช้าง

          เกาะช้าง...เกาะยอดฮิตตลอดกาล อาจเพราะมีธรรมชาติอันงดงามทั้งบนบกและในทะเล มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่สำคัญคือสามารถไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ ความงดงามของ เกาะช้าง หรือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง จังหวัดตราด เกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ก็ยังคงสวยงามเสมอ 

          ทั้งนี้ สภาพโดยรวมบนเกาะช้างพื้นที่กลางเกาะเป็นภูเขาและป่าดิบชื้น มีที่ราบอยู่ตามขอบเกาะก่อนถึงชายหาดของอ่าวต่าง ๆ ที่ราบเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าว สวนยางพารา และสวนผลไม้อื่น ๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ของเกาะช้างเป็นภูเขาสูง มีหินผาสลับซับซ้อน ยอดเขาที่สูงที่สุด ได้แก่ ยอดเขาสลักเพชร อันเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำตกและลำธารหลายสาย ที่หล่อเลี้ยงผู้คนและสรรพชีวิตบนเกาะ และมีพื้นที่บางส่วนที่เป็นสวนยางพาราและสวนผลไม้ด้วย

          สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะช้างก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้, บ้านสลักคอก, อ่าวสลักเพชร – บ้านสลักเพชร,บริเวณยุทธนาวีเกาะช้าง, หาดบางเบ้า – หมู่บ้านประมงบางเบ้า ฯลฯ และมีเกาะขนาดเล็กรายล้อมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะช้าง คือ ช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน เพราะเป็นช่วงคลื่นลมสงบ ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม ส่วนเดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกที่สุด นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง

 เขาใหญ่

          เรียกได้ว่าชื่อของ เขาใหญ่ หรือ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มักติดโผสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้น ๆ ของเมืองไทยเสมอ เพราะธรรมชาติที่เขียวขจีของผืนป่า ความเย็นฉ่ำของน้ำตก ความสดชื่นขอสายน้ำ ทำให้นักเดินทางมักแวะเวียนไปท่องเที่ยว ซึ่งเขาใหญ่มีอาณาเขตครอบคลุม 4 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี  นครราชสีมา ปราจีนบุรี และนครนายก อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานานาชนิด ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้เขาใหญ่ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ในปี 2548

          สำหรับลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง และยังประกอบด้วยทุ่งกว้างสลับกับป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ในฤดูร้อนดอกไม้ป่ามีหลากสีบานสะพรั่ง บ้างออกผลตามฤดูกาล ฤดูฝนป่าไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจี น้ำตกทุกแห่งไหลแรงส่งเสียงดังก้องป่า และฤดูหนาวช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นฤดูที่นักท่องเที่ยวมากที่สุด ท้องฟ้าแจ่มใส ป่าไม้เขียวขจี

          ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, น้ำตกกองแก้ว, น้ำตกผากล้วยไม้, น้ำตกเหวสุวัต, หอดูสัตว์, น้ำตกเหวนรก นอกจากนี้ บริเวณใกล้ ๆ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวชิค ๆ อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น Palio, The SmokeHouse, Primo Posto, ตลาดน้ำกลางดง และฟาร์มโชคชัย ฯลฯ 

          ทั้งนี้ อุทยานฯ มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว วันละ 2,000 คน ดังนั้น ผู้ประสงค์จะเข้าไปเที่ยวในอุทยานฯ กรุณาสอบถามหรือติดต่อล่วงหน้าที่ โทรศัพท์0 3736 5033, 08 1877 3127, 08 6092 6531 (ตลอด 24 ชั่วโมง)

 เกาะล้าน

          ใครจะเชื่อว่าทะเลที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่มากนัก จะมีน้ำทะเลที่ใสสะอาด หาดทรายขาวนวลชวนสัมผัสซะขนาดนี้ จึงไม่ต้องแปลกใจหาก เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี จะกลายเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่เหล่าบรรดานักเดินทาง ต่างพากันแวะเวียนไปเยือนตลอดทั้งปี 

          อีกทั้งบนเกาะล้านยังมีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นหาดตาแหวน, หาดสังวาลย์, หาดทองหลาง, หาดแสม และหาดเทียนหาดนวล ซึ่งส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ เพราะน้ำทะเลที่เกาะล้านนี้ใสมาก ๆ แถมยังเย็นชื่นใจอีกด้วย หรือจะเลือกไปดำน้ำดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ ไม่ว่าจะเป็น "เรือลากร่มชูชีพ" สำหรับผู้ที่ชอบหวาดเสียว "เรือสกี" สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย หรือจะเลือกมันส์ไปกับ "สกู๊ตเตอร์" ก็ไม่มีใครว่า

          หากเล่นทะเลจนเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปกินลมชมวิวชิว ๆ กันต่อที่ "จุดชมวิวเขานม" เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดของเกาะล้าน ตั้งอยู่บริเวณเขานมใกล้ ๆ กับหาดแสม นักท่องเที่ยวสามารถเดิน หรือใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างขึ้นไปชมความสวย งามของท้องทะเลสีครามกับตัวเมืองพัทยา ที่ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์ได้งดงามกลมกลืน ดุจภาพวาดที่ทุกคนต้องประทับใจ 

 เกาะเสม็ด

          เกาะงามอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย สำหรับ เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เสน่ห์มัดใจของที่นี่ นอกจากจะมีชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลเย็นใสน่าสัมผัสแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกทั้งยามกลางวันและค่ำคืน ที่สำคัญการเดินทางไปก็ไม่ยากนัก เพราะอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพฯ เท่าไรด้วยนะ นอกจากนี้ ภายในเกาะเสม็ด ยังประกอบไปด้วยชายหาดและอ่าวต่าง ๆ ที่เรียงรายยาวสุดลูกลูกตา ที่นักท่องเที่ยวต่างการันตีว่า ถ้าไปถึงแล้วแทบจะไม่อยากกลับเลยทีเดียว

          เกาะเสม็ด มีหาดทรายธรรมชาติสวยงามที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง ได้แก่ หาดทรายแก้ว อ่าวน้อยหน่า อ่าวลูกโยน อ่าวไผ่ อ่าวพุทรา อ่าวทับทิม อ่าวลุงดำ อ่าวช่อ อ่าวตะวัน อ่าววงเดือน อ่าวเทียน อ่าวหวาย อ่าวกิ่ว อ่าวปะการัง อ่าวกะรัง และอ่าวพร้าว นอกจากนี้ เกาะเสม็ดยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก ที่ราคาไม่แพงนัก จึงถือเป็นเกาะเปี่ยมเสน่ห์และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบอีกแห่งหนึ่งในปัจจุบัน

          ทั้งนี้ ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะเสม็ด คือ ช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมสงบ ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม ส่วนเดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกที่สุด นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง

 เกาะสีชัง

          ถึงแม้ว่าชื่อจะน่าชัง แต่ด้วยความสวยงามของธรรมชาติ ทำให้ เกาะสีชัง ติดเข้าโผสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเกาะสีชังเป็นเกาะใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ เป็นที่ตั้งของท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง) และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็ปไปยังจุดอื่น ๆ 

          บนเกาะสีชังจุดท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, มณฑปรอยพระพุทธบาท, ช่องเขาขาด, พระจุฑาธุชราชฐาน, หาดถ้ำเขาพัง เป็นต้น ทั้งนี้ การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอยู่ห่างกันพอสมควร จะสะดวกมากหากจะเช่ารถสามล้อเครื่องจากท่าเทียบเรือไปชมสถานที่ต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็เที่ยวได้ทั่วเกาะ ค่าเช่ารถสามล้อเครื่อง คิดเป็นรอบ ๆ ละประมาณ 150-250 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและระยะทาง

 ปาย

          ไม่ติดอันดับสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมคงแปลกไม่น้อย สำหรับ “ปาย” อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่ชื่อเสียงกลับไม่เล็กตามไปด้วย เพราะถือว่าเป็นอำเภอที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวมากที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว ในอดีตเมืองปายมักรู้จักเฉพาะกันเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งต่อมา ก็เป็นที่นิยมท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย และเมืองปายถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

          เสน่ห์ที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสเมืองปาย นอกจากธรรมชาติอันร่มรื่นแล้ว การเดินชิล ๆ บนถนนคนเดินปายก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือน ถนนชัยสงครามบริเวณท่ารถปายทั้งเส้นจะปิดการจราจร ให้นักท่องเที่ยวเดินเลือกซื้อสินค้า ทั้งจากสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นของชาวเขา ตลอดจนสินค้าอื่น ๆ ทั่วไป โดยเฉพาะของฝาก ของที่ระลึก เสื้อผ้า รูปภาพ โปสการ์ด ตลอดจนร้านอาหาร ที่พัก แหล่งบันเทิงต่าง ๆ จะมีอยู่เรียงรายในถนนเส้นนี้ แต่กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวยอดนิยม คือการเขียนโปสการ์ดส่งไปจากปาย จึงทำให้มีร้านโปสการ์ดและร้านกาแฟ มีอยู่ทั่วไปในถนนคนเดิน

 น่าน

          จังหวัดเล็ก ๆ ที่ยังคงกลิ่นอายของศิลปวัฒนธรรมล้านนาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม จึงเป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัสอดีตกาล ณ น่าน ดินแดนในอ้อมกอดของขุนเขาด้านตะวันออกของภาคเหนือ อุดมด้วยธรรมชาติผืนป่า สายน้ำ ทะเลหมอก หล่อหลอมรวมกับวิถีวัฒนธรรมของผู้คนชาวไทยลื้อ ทำให้เสน่ห์ของน่านไม่ได้มีเพียงธรรมชาติอันพิสุทธิ์ แต่ยังมีศิลปวัฒนธรรม ประเพณี ที่แฝงด้วยแรงศรัทธาในพุทธศาสนา และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

          ปัจจุบัน เมืองน่านยังคงดำเนินวิถีชีวิตอย่างสงบสุขและเรียบง่าย ผู้คนส่วนใหญ่ยังคงพึ่งพิงเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก ซึ่งความเรียบง่ายเหล่านี้ เป็นเสน่ห์ที่สำคัญของเมืองน่าน ที่ทำให้ใคร ๆ ก็ต่างอยากเดินทางไปท่องเที่ยวสักครั้ง และถึงแม้จะเป็นเมืองเล็ก แต่น่านก็มีเสน่ห์เรื่องอาหารการกินอยู่ไม่ใช่น้อย มีอาหารพื้นเมืองชาวเหนือให้ได้ลองชิมกัน

          ส่วนแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดน่านมีหลายรูปแบบ ทั้งวัดวาอาราม โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น วัดพระธาตุแช่แห้ง, วัดพระธาตุช้างค้ำ, วัดภูมินทร์, อุทยานแห่งชาติภูคา, อุทยานแห่งชาติศรีน่าน และผาชู้ เป็นต้น โดยเฉพาะการไปชมความงดงามของ “ดอกชมพูภูคา” ดอกไม้ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่งของโลก ที่มักออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งทั้งต้น คือช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคมของทุกปี ณ อุทยานแห่งชาติภูคา

 ม่อนแจ่ม

          นาทีนี้ไม่พูดถึง ม่อนแจ่ม คงไม่ได้ เพราะกำลังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ไปซะแล้ว ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวิวทิวเขาซับซับซ้อน แถมยามค่ำคืนฟากฟ้าแวดล้อมไปด้วยดวงดารา ส่องแสงประกายระยิบระยับ จึงทำให้ม่อนแจ่มเข้าไปอยู่ในใจใครหลาย ๆ คน 

          ม่อนแจ่ม คือสถานที่พักแห่งใหม่ของโครงการหลวง เป็นพื้นที่บนสันเขาในระดับความสูงประมาณ 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในรูปแบบแคมปิ้ง รีสอร์ท ที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังพิเศษตรงที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเพียงแค่คุณเปิดหน้าต่าง สายลมเย็น ๆ วิวขุนเขา สายหมอก ก็โผล่รอต้อนรับ แถมยามค่ำคืนดาวน้อยใหญ่จะค่อย ๆ ส่องประกายแวววับให้มองเพลิน ๆ ซะด้วย

          แถมที่ม่อนแจ่มยังมีร้านอาหารที่นำผลิตผลท้องถิ่นที่ปลูกเอง มาปรุงให้รับประทานกันด้วย ผัก ๆ สด ๆ หวานกรอบ หาชิมยากในเมืองกรุง และถ้ากินอิ่มแล้วอยากยืดแข้งขืดขา ก็สามารถไปเดินชมแปลงสตรอเบอร์รีผลสีแดงสด...ว้าว!    

 ภูทับเบิก

          แปลงปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทะเลหมอกขาวโพรนไกลสุดลูกหูลูกตา คงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงนักสำหรับ “ภูทับเบิก” จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร และมีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ตอนเช้ามีกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ 

          ปัจจุบัน ภูทับเบิกเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ 14 และหมู่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมีดอกซากุระหรือนางพญาเสือโครงสีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา

          นอกจากนี้ ในยามค่ำคืนยังมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในอำเภอหล่มสักที่อยู่เบื้องล่าง เปรียบได้กับ “ดาวบนดิน” จากสภาพดังกล่าว ทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็น วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติบริสุทธิ์ ภายใต้คำกล่าวที่ว่า “นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน”

 ดอยอ่างขาง

          อาจเพราะอากาศบนดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ หนาวเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม อากาศจะเย็นจนน้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็ง แถมดอกไม้นานาพันธุ์ยังสับเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกบานสะพรั่งไปทั่วทั้งดอย เช่น ต้นดอกนางพญาเสือโคร่ง อีกทั้งมีกิจกรรมท่องเที่ยวหลายอย่างที่สามารถทำได้ เช่น เดินเท้าศึกษาธรรมชาติ ขี่ล่อล่องไพร เป็นต้น จึงไม่แปลกที่ดอยอ่างขางจะเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี 

          ส่วนสถานที่น่าสนใจบนดอยมีหลายแห่ง ได้แก่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง มีพรรณไม้ที่ปลูกมากมาย เช่น ไม้ผลอย่างบ๊วย ท้อ พลัม พลับ กีวี กาแฟพันธุ์อาราบิกา, ไม้ดอก เช่น แกลดิโอลัส เยอบีราพันธุ์ยุโรป สแตติส, ผัก เช่น ซูกินี เบบีแครอต กระเทียมต้น หอมญี่ปุ่น ผักกาดฝรั่ง ถั่วแดงหลวง ฯลฯ นอกจากนี้ ที่สถานีฯ ยังเป็นแหล่งเที่ยวชมวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านชาวไทยภูเขาต่าง ๆ ได้แก่ เผ่ามูเซอดำ ปะหล่อง และจีนฮ่อ รวมทั้งชมความงามตามธรรมชาติของผืนป่า กิจกรรมดูนกซึ่งมีนกทั้งนกประจำถิ่นและนกหายากต่างถิ่น

          พร้อมผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย งานส่งเสริมเกษตรกรจำหน่ายใต้ตราสินค้า "ดอยคำ" และที่พักทั้งในรูปแบบรีสอร์ท บ้านพักแบบกระท่อมและลานกางเต็นท์พร้อมอาหารและเครื่องดื่มบริการ, สวนบอนไซ อยู่ในบริเวณสถานีฯ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้เขตอบอุ่นและเขตหนาวทั้งในและต่างประเทศ และจุดชมวิวกิ่วลม ที่สามารถชมทะเลหมอกและวิวพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตก มองเห็นทิวเขารอบด้านและหากฟ้าเปิดจะมองเห็นสถานีเกษตรหลวงอ่างขางด้วย

  ดอยอินทนนท์

          สุดยอดขุนเขาสูงสุดในสยามนามดอยอินทนนท์ งดงามด้วยพรรณพฤกษาและบรรยากาศเทือกดอยหนาวเย็นดึงดูดใจ ชื่อของดอยอินทนนท์จึงติดอยู่ในอันดับที่นักเดินทางคิดถึงเมื่อนึกจะไปท่องเที่ยวเป็นอันดับต้น ๆ เสมอ ทั้งนี้ ดอยอินทนนท์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยซึ่งพาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน พม่า และมาสิ้นสุดที่จังหวัดเชียงใหม่ สิ่งที่น่าสนใจของดอยนี้ไม่เพียงแต่เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศด้วยความสูง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางเท่านั้น แต่สภาพภูมิประเทศและสภาพป่าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าสน ป่าเบญจพรรณ และอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวัน และบางครั้งน้ำค้างยังกลายเป็นน้ำค้างแข็ง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนที่นี่อย่างไม่ขาดสาย

          สถานที่น่าสนใจในอุทยานฯ น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามมากแห่งหนึ่ง, น้ำตกแม่กลาง มีน้ำไหลตลอดปี มีความสวยงามตามธรรมชาติ, ถ้ำบริจินดา เพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในถ้ำด้วย, น้ำตกวชิรธาร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ น้ำจะดิ่งจากผาด้านบนตกลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง, น้ำตกสิริภูมิ เป็นสายน้ำตกแฝดไหลลงมาคู่กันแต่เดิมเรียกว่า “เลาลึ” ตามชื่อของหัวหน้าหมู่บ้านม้งซึ่งอยู่ใกล้ ๆ น้ำตก

          โครงการหลวงดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ในบริเวณดอยอินทนนท์ สถานีวิจัยโครงการหลวงอินทนนท์เป็นสถานีวิจัยดอกไม้เมืองหนาวเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังมีโครงการวิจัยสตรอว์เบอรรี โครงการศึกษาและรวบรวมพันธุ์เฟินชนิดต่าง ๆ โครงการวิจัยกาแฟ โครงการวิจัยฝรั่งคั้นน้ำ ไม้ และยังมีพืชผักสมุนไพร และไม้ผลขนาดเล็ก ซึ่งจัดจำหน่ายภายใต้ตรา "ดอยคำ", พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย พระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อพ.ศ.2530 และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ

          ยอดดอยอินทนนท์ จุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 1009 เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย (2,565 เมตร) มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทย และเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้ายซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของป่าไม้และหวงแหนดอยหลวงเป็นอย่างมากต้องการที่จะอนุรักษ์ไว้จนชั่วลูกชั่วหลาน ท่านผูกพันกับที่นี่มากจึงสั่งว่าหากสิ้นพระชนม์ไปแล้วให้แบ่งเอาอัฐิส่วนหนึ่งมาไว้ที่นี่, น้ำตกห้วยทรายเหลือง เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีน้ำไหลแรงตลอดปี, น้ำตกแม่ปาน นับว่าเป็นน้ำตกที่ยาวที่สุดของเชียงใหม่ก็ว่าได้ ตกลงมายังเบื้องล่างกระทบโขดหินแตกเป็นฟองกระจายไปทั่วบริเวณทำให้มีความชุ่มชื้น, เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนดอยอินทนนท์ที่กิ่วแม่ปานและอ่างกาหลวง

 ภูกระดึง

          ภูกระดึง ... แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย เพราะมีสภาพธรรมชาติสมบูรณ์ประกอบด้วยระบบนิเวศและภูมิประเทศหลากหลายทั้งทุ่งหญ้า ป่าสนเขา ป่าดิบ น้ำตกและหน้าผาชมทิวทัศน์ เส้นทางขึ้นภูกระดึง ทางขึ้นค่อนข้างชันแต่จะมีจุดแวะพักที่ “ซำ” หมายถึง บริเวณที่มีแหล่งน้ำใต้ดินผุดขึ้นมาแต่ละจุดมีเครื่องดื่มและอาหารบริการ

          จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนภูกระดึง ได้แก่ ผานกแอ่น เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามมากแห่งหนึ่ง สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างซึ่งเป็นท้องทุ่งและเทือกเขา, ผาหล่มสัก เป็นลานหินกว้าง และมีสนต้นใหญ่อยู่ใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปจากหน้าผา เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้ชัดเจนที่สุด จึงทำให้นักท่องเที่ยว ช่างภาพนิยมไปถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ผาแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึง นอกจากนี้ ยังมี ผาหมากดูก น้ำตกวังกวาง น้ำตกเพ็ญพบใหม่ น้ำตกโผนพบ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกถ้ำใหญ่ น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ สระอโนดาต เป็นต้น

  หัวหิน

          หัวหิน...เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีชื่อเสียงในฐานะเป็นสถานตากอากาศที่สวยงาม นับเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศริมทะเลที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย และเป็นจุดหมายยอดนิยมอันดับต้น ๆ สำหรับการท่องเที่ยวและพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ของคนกรุงเทพฯ เพราะนอกจากจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงหลากหลายรูปแบบ มีที่พัก รีสอร์ต และโรงแรมชั้นนำมากมาย

          นอกจากการเดินทางและคมนาคมสะดวกสบายแล้ว หัวหินยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไป-กลับได้ในวันเดียว ทั้งยังสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จึงถือเป็นเมืองท่องเที่ยวเปี่ยมเสน่ห์ที่สมบูรณ์แบบอีกแห่งหนึ่งในปัจจุบัน

 เกาะพีพี

          เกาะพีพี หมู่เกาะกลางทะเลอันดามันของไทย ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองฯ จังหวัดกระบี่ เป็นอัญมณีเลอค่าแห่งทะเลอันดามัน ที่ในวันนี้โด่งดังติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของโลก ด้วยความงดงามของเวิ้งอ่าวคู่ของอ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัมอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บวกกับทะเลในสีเขียวมรกตสวยใส ที่โอบล้อมหาดทรายขาวนวลละเอียดราวแป้งของอ่าวมาหยา พร้อมแนวปะการังและสรรพชีวิตหลากสีสันนานาพันธุ์ในโลกใต้ทะเล สิ่งเหล่านี้คือแม่เหล็กที่ดึงดูดให้นักเดินทางนับล้านชีวิตจากทั่วทุกมุมโลกหลั่งไหลมายังหมู่เกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ เพื่อจะมาเยี่ยมเยือนและสัมผัสให้เห็นกับตาตัวเองว่า หมู่เกาะพีพีนั้น งดงามสมกับที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นเกาะที่สวยงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก และคู่ควรกับที่ได้ฉายาว่า “มรกตแห่งอันดามัน สวรรค์เกาะพีพี” เพียงไร

          เกาะพีพี ประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอนและเกาะพีพีเล แต่ศูนย์กลางของหมู่เกาะพีพีอยู่ที่เกาะพีพีดอน โดยมีอ่าวต้นไทรเป็นที่ตั้งของท่าเรือเกาะพีพี มีที่พักและร้านค้าต่าง ๆ ตั้งอยู่หนาแน่น และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินเท้าจากอ่าวต้นไทรขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขาความสูง 180 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ที่มองเห็นเวิ้งอ่าวคู่ของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัมอันสวยงามและโด่งดังไปทั่วโลกได้ นอกจากเวิ้งอ่าวคู่แล้ว ที่เกาะพีพีเลยังมีทะเลในสีมรกตและอ่าวมาหยาที่งดงามโดดเด่นอยู่ในอ้อมกอดของเขาหินปูน นอกจากนี้ บริเวณเกาะพีพีเลยังเป็นจุดดำน้ำตื้นและน้ำลึกที่สวยงามและเป็นที่นิยมแห่งหนึ่งด้วย

 เกาะหลีเป๊ะ

          ความใสสะอาดของน้ำทะเล ตัดท้องฟ้าสีคราม หาดทรายสีขาวนวลละออ ทำให้นักท่องเที่ยวมุ่งหน้าสู่ภาคใต้มายัง จังหวัดสตูล เพื่อไปสัมผัสกับความงดงามของ เกาะหลีเป๊ะ หรือที่เค้าเรียกกันว่า "มัลดีฟส์เมืองไทย" เกาะที่ราบเรียบคล้ายกระดาษ ซึ่งมีที่มาจากภาษาท้องถิ่นชาวเล (ชนเผ่าอุรักลาโว้ย) บนเกาะ ซึ่งส่วนใหญ่ทำอาชีพประมง รอบเกาะเต็มไปด้วยปะการังอันสมบูรณ์ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายขาวละเอียด เป็นศูนย์กลางของความสะดวกสบายมากมายทั้งที่พัก ที่กิน ที่เที่ยวยามค่ำคืนครบครัน

          เกาะสิเป๊ะ หรือ เกาะหลีเป๊ะ อยู่ทางใต้ของเกาะอาดัง 2 กิโลเมตร มีชุมชนชาวเลอาศัยอยู่หลายครัวเรือน ส่วนใหญ่มีอาชีพทำการประมง ในวันขึ้น 13-15 ค่ำ เดือน 6 และเดือน 12 ตลอด 3 วัน 3 คืน ชาวบ้านทีมีเชื้อสายชาวเลจะร่วมกันจัดงานรื่นเริง และที่สำคัญที่สุดคือ ชาวบ้านจะช่วยกันต่อเรือด้วยไม้ระกำ และประกอบพิธีลอยเรือด้วยเป็นความเชื่อว่าเป็นการเสี่ยงทายโชคชะตาในการประกอบอาชีพประมง

          จุดเด่นของเกาะหลีเป๊ะ คือ ความเป็นธรรมชาติของปะการังรอบเกาะ มีเวิ้งอ่าวที่สวยงาม หาดทรายละเอียดนิ่มเหมือนแป้ง มีอ่าวที่สวยงามชื่อ "อ่าวพัทยา"และ "หาดชาวเล" มีลักษณะโค้งเว้า ทรายขาวละเอียด ซึ่งทั้งสองหาดนี้สามารถเดินถึงกันได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที และยังมีบริการบ้านพักของเอกชนคอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

 เกาะสมุย

          เกาะสมุย จังหวัดราษฎร์ธานี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของประเทศอีกแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เพราะมีธรรมชาติอันงดงาม มีหาดทรายขาวละเอียดที่สะอาดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบครบครัน ทั้งที่พักหลากหลายรูปแบบจำนวนมาก มีการคมนาคมที่สะดวก และมีสนามบินเป็นของตัวเอง ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว และเติมเต็มให้เกาะแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบ ปัจจุบันเกาะสมุยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของทะเลอ่าวไทยตอนใต้ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลไปเยี่ยมเยือนปีละหลายล้านคน

          สมุยมีหาดทรายธรรมชาติสวยงามที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง เช่น หาดเฉวง หาดละไม หาดตลิ่งงาม และหาดนาเทียน และมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้และแหล่งน้ำ นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวและศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ที่สร้างเสน่ห์ให้กับเกาะแห่งนี้เป็นอย่างมาก ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวเกาะสมุยคือ ช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงคลื่นลมสงบ แต่ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดจริง ๆ คือ เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เพราะเป็นช่วงที่ฝนตกน้อยที่สุด ส่วนช่วงเวลาระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เป็นช่วงฤดูมรสุม ทะเลมีคลื่นลมแรง นักท่องเที่ยวจึงควรตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลมในทะเลก่อนเดินทาง

 อัมพวา

          อัมพวา เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม บรรยากาศของที่นี่จะร่มรื่นไปด้วยสวนผสมริมน้ำ โดยเราสามารถหลบร้อนไปลงเรือล่องคลองชมสวน สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน ชิมผลไม้ต่างๆ หรือซื้อกลับไปกินบ้านให้ชื่นฉ่ำใจก็ได้ไม่มีใครว่า หรือจะเลือกปั่นจักรยานเช่าถีบไปคู่ขนานกับท้องร่อง ก็ได้อรรถรสอีกแบบหนึ่ง และตกเย็นการท่องเที่ยวยังไม่จบสิ้น และเป็นไฮไลต์ของการเยือนอัมพวาเลยทีเดียว นั่นคือ การชมและชิมอาหารหลากหลายที่"ตลาดน้ำอัมพวา" เป็นตลาดริมคลอง ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม ซึ่งเปิดทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ ในช่วงเวลาเย็นตั้งแต่ช่วงเวลา 12.00 - 20.00 น. ในคลองอัมพวาจะมีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหารและเครื่องดื่ม บรรยากาศสบาย ๆ มีเพลงฟัง จากเสียงตามสายของชาวชุมชน ประชาชนสามารถเดินเที่ยวชมตลาดหาซื้ออาหารรับประทานและเช่าเรือไปเที่ยวชมดูหิงห้อยในยามค่ำคืนได้

 เกาะเกร็ด

          เกาะเกร็ด เกาะกลางลำน้ำเจ้าพระยา จังหวัดนนทบุรี รู้จักกันดีในฐานะแหล่งชุมชนคนมอญ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเครื่องปั้นดิน เผา และประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการจุดลูกหนู งานตักบาตรทางน้ำ เป็นต้น 

          อย่างไรก็ตาม หลายปีให้หลังมานี่ การท่องเที่ยวเกาะเกร็ดดูเหมือนจะเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ปกติถ้าไปเที่ยวในวันเสาร์ – อาทิตย์ รวมถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์ บนเกาะจะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมาย ร้านค้า ร้านอาหารก็ดูจะคึกคักสุด ๆ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวบนเกาะเกร็ด ก็จะมีทั้งมาเดินเที่ยว ช้อปปิ้ง หาของอร่อย ๆ กิน บ้างก็เลือกนั่งเรือชมรอบเกาะ ทำเอาเพลิดเพลินใจไปอีกแบบ ทั้งนี้ เกาะเกร็ดจะเปิดเวลาประมาณ 9.00 - 17.30 น. ส่วนการคมนาคมบนเกาะจะใช้รถจักรยานและรถจักรยานยนต์

 สวนผึ้ง

          สวนผึ้ง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา และน้ำตก พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบสูง ภูมิประเทศของสวนผึ้งนั้นขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งเป็นพรมแดนทางตะวันตกกั้นระหว่างประเทศไทยกับพม่า การเดินทางสะดวก ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว

          สถานที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย ทั้งจากธรรมชาติสร้างและฝีมือมนุษย์รังสรรค์ ที่สำคัญมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวอากาศจะดีมาก ๆ และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็มีอยู่มากมายหลายแห่ง เช่น โป่งยุบ เป็นการยุบตัวของพื้นดินที่มีลักษณะเป็นหลุม มีความลึกประมาณ 3-5 เมตร เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก, บ้านเทียนหอม หนึ่งในของที่ระลึกที่ไม่ซื้อไม่ได้ถ้าไปถึงสวนผึ้งก็คือ เทียนหอมสารพัดลวดลายหลากหลายสีสัน แถมยังมีร้านเสื้อเพ้นท์สดลวดลายสวยงามน่ารัก ใส่แล้วไม่ซ้ำใครแน่นอนเพราะเค้าเพ้นท์มาแบบละตัวเท่านั้น

          ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ลักษณะเป็นลำธารเล็ก ๆ มีน้ำไหลซึมออกมาจากตาน้ำใต้ดินไม่ขาดสาย มีน้ำไหลตลอดปี อุณหภูมิของน้ำจะประมาณ 65 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนมากพอที่จะต้มไข่สุกได้, น้ำตกเก้าชั้น หรือ น้ำตกเก้าโจน มีทั้งหมด 14 ชั้น แต่สามารถเที่ยวได้เพียง 9 ชั้นเท่านั้น ในฤดูฝนจะมีน้ำมาก หินบริเวณน้ำตกชั้นต่าง ๆ เป็นหินแกรนิต มีจุดกางเต้นท์ให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ด้านบน และสวนผึ้งออร์คิด ใครชอบกล้วยไม้ไม่ควรพลาด เพราะเป็นศูนย์รวม แวนด้า แอสโดเซนด้า ลูกผสมหลากสี สวยงาม มีให้เลือกกันอย่างมากมาย ชอบต้นไหนก็ซื้อกลับบ้านได้เลย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพัน 

 เชียงคาน

          เชียงคาน อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดเลย ยังคงอารยธรรมแห่งลุ่มน้ำโขง ที่ผสมผสานกับความทันสมัยของโลกปัจจุบันได้อย่างลงตัว ความเงียบสงบของเมือง ความน่ารักของผู้คน ที่ยังดำรงวิถีชีวิตแบบราบเรียบ และกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้อย่างแนบแน่นดีเยี่ยม รวมไปถึงทัศนียภาพพริมฝั่งโขงที่สวยงาม คงเป็นเอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้นักเดินทางมักแวะเวียนไปต้องมนต์เสน่ห์ ณ เชียงคาน

          ปัจจุบันแม้ว่าบ้านเรือนอาคารต่าง ๆ ภายใน เชียงคาน จะดัดแปลงมาทำโรงแรม เกสต์เฮ้าส์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ แกลอรี่ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายโปสต์การ์ด ฯลฯ แต่ความเป็นเชียงคานก็ยังคงอยู่เฉกเช่นวันวาน วัฒธรรมการตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้าแบบเมืองหลวงพระบาง ที่เชียงคานก็มีให้เห็นเหมือนเคย ในช่วงเวลาประมาณ 06.00 – 06.30 น. จะมีผู้คนมารอใส่บาตรข้าวเหนียวยามเช้าเป็นประจำทุกวัน

          สำหรับแหล่งท่องเที่ยวเที่ยวแจ่ม ๆ ของ เชียงคาน ได้แก่ วัดศรีคุณเมือง เป็นแหล่งรวมงานศิลปะทั้งแบบล้านนาและล้านช้างดังจะเห็นได้จากโบสถ์ ซึ่งหลังคาลดหลั่นอย่างศิลปะล้านนา, วัดท่าแขก เป็นวัดเก่าแก่โบราณ ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูป 3 องค์ สกัดจากหินแกรนิตทั้งก้อน หน้าตักกว้าง 2 ศอก เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์มาก, พระพุทธบาทภูควายเงิน เป็นรอยพระพุทธบาทที่ตั้งอยู่บนหินลับพร้า (หินลับมีด) ประชาชนเคารพนับถือมาก จะมีงานเทศกาลประจำปีในวันเพ็ญเดือน 3 หรือเดือน 4 ของทุกปี, พระใหญ่ภูคกงิ้ว เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระพุทธนวมินทรมงคลลีลา ทวินคราภิรักษ์ ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาบริเวณปากลำน้ำเหืองจรดกับแม่น้ำโขง

          แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินใหญ่ขวางอยู่กลางลำน้ำโขง ประกอบด้วยหินก้อนใหญ่ ๆ เป็นจำนวนมาก จากการที่หินเหล่านี้อยู่ใต้น้ำเป็นเวลานาน ทำให้หินเหล่านี้มีสีสัน, จุดชมวิวภูทอก ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเชียงคาน เป็นเพียงภูเขาลูกเล็ก ๆ แต่ก็มีเสน่ห์ที่เป็นจุดชมวิว ชมความงามของแม่น้ำโขง เมืองสานะคาม และแก่งคุดคู้ได้อย่างชัดเจน อีกทั้งในฤดูฝนและฤดูหนาวจะถูกปกคลุมไปด้วยผ้าห่มหมอ